สำหรับบัณฑิตจบใหม่หรือผู้ที่กำลังมองหางาน อาจจะสับสนกับเอกสารสำคัญ 2 อย่างที่ใช้ในการสมัครงาน นั่นคือ CV (Curriculum Vitae) และ Resume (เรซูเม่) แม้จะมีความคล้ายคลึงกันในแง่ที่เป็นเอกสารสรุปประวัติส่วนตัวและประสบการณ์ แต่ทั้งสองอย่างนี้ก็มีจุดประสงค์และรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน การทำความเข้าใจความแตกต่างจะช่วยให้คุณเลือกใช้ได้ถูกสถานการณ์ เพิ่มโอกาสในการได้งานที่ใช่

 

Resume (เรซูเม่)

 

Resume มาจากภาษาฝรั่งเศส แปลว่า "สรุป" ซึ่งตรงตามวัตถุประสงค์ของเอกสารนี้เลยทีเดียว เรซูเม่คือ เอกสารสรุปประวัติส่วนตัว ประวัติการศึกษา ประสบการณ์ทำงาน ทักษะ และความสามารถที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่สมัคร โดยเน้นความกระชับ ตรงประเด็น และดึงดูดความสนใจของ HR ได้อย่างรวดเร็ว

 

ลักษณะเด่นของ Resume:

 

  • ความยาว: ส่วนใหญ่ไม่ควรเกิน 1 หน้ากระดาษ A4 (สำหรับผู้ที่เพิ่งจบใหม่หรือมีประสบการณ์น้อยกว่า 5 ปี) หรือไม่เกิน 2 หน้า (สำหรับผู้มีประสบการณ์เยอะ)

  • เนื้อหา: เน้นข้อมูลที่ เกี่ยวข้องโดยตรง กับตำแหน่งงานที่สมัครเท่านั้น มีการคัดเลือกและปรับแต่งเนื้อหาให้เหมาะสมกับแต่ละบริษัท/ตำแหน่งงาน

  • วัตถุประสงค์: เพื่อสรุปความสามารถและประสบการณ์ที่โดดเด่นของคุณ ให้ HR เห็นภาพรวมว่าคุณมีคุณสมบัติเหมาะสมกับงานนี้หรือไม่ และอยากเรียกคุณไปสัมภาษณ์ต่อ

ใช้ Resume เมื่อไหร่ดี?

 

  • การสมัครงานทั่วไป: 90% ของการสมัครงานในภาคเอกชน ไม่ว่าจะเป็นบริษัท สตาร์ทอัพ หรือองค์กรทั่วไปในประเทศไทย มักจะใช้ Resume

  • งานที่ไม่เน้นวิชาการหรือวิจัย: เช่น พนักงานออฟฟิศ, การตลาด, ฝ่ายขาย, พนักงานบริการ, งานธุรการ ฯลฯ

  • เมื่อต้องการนำเสนอข้อมูลสำคัญแบบรวดเร็ว: HR มีเวลาดูเรซูเม่แต่ละฉบับไม่นานนัก การสรุปข้อมูลให้กระชับและน่าสนใจจึงเป็นสิ่งสำคัญ

เคล็ดลับการทำ Resume 

 

  • ปรับแต่งทุกครั้ง: อย่าใช้เรซูเม่ฉบับเดียวสมัครทุกงาน ควรอ่าน JD (Job Description) ของตำแหน่งนั้นๆ แล้วปรับแต่งเนื้อหาให้สอดคล้อง

  • เน้น "ผลลัพธ์" ไม่ใช่แค่ "หน้าที่": แทนที่จะบอกว่า "มีหน้าที่ดูแลลูกค้า" ควรบอกว่า "ดูแลลูกค้า 50 ราย เพิ่มยอดขาย 15% ใน 6 เดือน"

  • ใช้คีย์เวิร์ด: แทรกคำศัพท์สำคัญที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่ต้องการ เพื่อให้ระบบคัดกรอง (ATS) ของบริษัทค้นเจอ

  • ออกแบบให้เรียบง่าย แต่ดูดี: ใช้ฟอนต์ที่อ่านง่าย จัดระเบียบหน้ากระดาษให้สบายตา ไม่ใส่สีหรือกราฟิกมากเกินไป

 

 

CV (Curriculum Vitae): 

 

CV ย่อมาจากภาษาละตินว่า "Curriculum Vitae" ซึ่งแปลว่า "เส้นทางชีวิต" CV จึงเป็นเอกสารที่บอกเล่าประวัติชีวิตทางด้านการศึกษา การทำงาน และประสบการณ์ทางสายอาชีพของคุณอย่าง ละเอียด เจาะลึก และครอบคลุมทุกแง่มุม มากกว่าเรซูเม่

 

ลักษณะเด่นของ CV

 

  • ความยาว: มักจะมีความยาวตั้งแต่ 2 หน้ากระดาษ A4 ขึ้นไป บางคนที่มีประสบการณ์และผลงานทางวิชาการมาก อาจยาวได้หลายหน้า

  • เนื้อหา: มีรายละเอียดที่ครบถ้วน ตั้งแต่ประวัติส่วนตัว ประวัติการศึกษา (ตั้งแต่ระดับมัธยมปลายหรือมหาวิทยาลัย) ประสบการณ์ทำงาน (ระบุรายละเอียดหน้าที่รับผิดชอบและผลงานอย่างละเอียด) ผลงานวิชาการ (งานวิจัย บทความที่ตีพิมพ์ การนำเสนอในเวทีต่างๆ) รางวัล เกียรติคุณ ทุนการศึกษา การฝึกอบรม ใบอนุญาตวิชาชีพ ภาษา ทักษะ และความสนใจ

  • วัตถุประสงค์: เพื่อนำเสนอประวัติทางวิชาการและวิชาชีพทั้งหมดของคุณอย่างครอบคลุม เพื่อแสดงศักยภาพ ความเชี่ยวชาญ และความน่าเชื่อถือในสายงานนั้นๆ

ใช้ CV เมื่อไหร่ดี?

 

  • สมัครงานสายวิชาการ: เช่น อาจารย์มหาวิทยาลัย, นักวิจัย, นักวิทยาศาสตร์, แพทย์ หรือตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาขั้นสูง

  • สมัครทุนการศึกษาหรือทุนวิจัย: โดยเฉพาะทุนในต่างประเทศ หรือทุนระดับสูง

  • งานที่ต้องการผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง: ที่จำเป็นต้องแสดงประวัติผลงานวิชาการหรืองานวิจัยอย่างละเอียด

  • สมัครงานในบางประเทศ: โดยเฉพาะประเทศในแถบยุโรป สหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ และนิวซีแลนด์ ที่นิยมใช้ CV สำหรับการสมัครงานทั่วไป

เคล็ดลับการทำ CV 

 

  • จัดหมวดหมู่ให้ชัดเจน: แบ่งเนื้อหาเป็นส่วนๆ ที่อ่านง่าย เช่น Education, Research Experience, Publications, Awards, Professional Memberships

  • ใช้ภาษาที่กระชับและเป็นทางการ: เน้นความถูกต้องทางวิชาการ

  • ตรวจสอบความถูกต้องและเรียบร้อย: เนื่องด้วยเนื้อหาที่เยอะ จึงต้องตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล การสะกดคำ และไวยากรณ์อย่างละเอียด

  • อัปเดตอย่างสม่ำเสมอ: เมื่อมีผลงานวิชาการใหม่ๆ หรือประสบการณ์เพิ่มเติม ควรอัปเดต CV ของคุณให้เป็นปัจจุบัน

 

ระหว่าง CV กับ Resume นิยมใช้แบบไหนมากกว่า?

 

สำหรับมือใหม่หางานในประเทศไทย โดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้ Resume ในการสมัครงานทั่วไปเป็นหลักแต่หากคุณสนใจงานสายวิชาการ หรืองานที่ต้องใช้ความเช่ียวชาญเฉพาะด้านมากๆ การจัดเตรียม CV ไว้ล่วงหน้าก็จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง  การเลือกใช้เอกสารที่เหมาะสมและจัดทาอย่างมืออาชีพ จะช่วยให้คุณโดดเด่นท่ามกลางผู้สมัครคนอื่นๆ และเพิ่มโอกาสในการก้าวสู่เส้นทางอาชีพที่คุณใฝ่ฝัน ขอให้คุณโชคดีกับการหางาน!

โพสต์โดย
โพสต์โดย
Programmer
“เปรมชัย” ผู้ที่ชื่นชอบการทำ Web Designer สู่การเป็น Developer อย่างเต็มรูปแบบ เปรมพร้อมที่จะให้บริการ ความช่วยเหลือ และแก้ไขปัญหาในด้านต่าง ๆ อีกทั้งยังชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ประสบการณ์ใหม่ๆ เพื่อนำมาใช้ให้เข้ากับงาน และพร้อมที่จะดูแลลูกค้าทุกท่านด้วยใจ