มนุษย์เงินเดือนมาตรา 33 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 เป็นต้นไป สำนักงานประกันสังคมเตรียมปรับเพิ่มเพดานค่าจ้างที่ใช้คำนวณเงินสมทบเป็นก้าวแรกหลังจากที่ใช้ฐานสูงสุด 15,000 บาท มานานกว่า 30 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจและเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ประกันตน ดังนี้
ระยะที่ 1 : ปี 2569-2571 ปรับเพดานฐานค่าจ้างสูงสุดเป็น 17,500 บาท จะต้องจ่ายเงินสมทบสูงสุด 875 บาทต่อเดือน
ระยะที่ 2 : ปี 2572-2574 ปรับเพดานฐานค่าจ้างสูงสุดเป็น 20,000 บาท จะต้องจ่ายเงินสมทบสูงสุด 1,000 บาทต่อเดือน
ระยะที่ 3 : ปี 2575 เป็นต้นไป ปรับเพดานฐานค่าจ้างสูงสุดเป็น 23,000 บาท จะต้องจ่ายเงินสมทบสูงสุด 1,150 บาทต่อเดือน
ทั้งนี้ จากการปรับเพดานค่าจ้างระยะที่ 1 (ปี พ.ศ.2569–2571) จะทำให้ผู้ประกันตนได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้นในหลายกรณี ดังนี้
- เงินทดแทนกรณีเจ็บป่วย สูงสุด 7,500 บาทต่อเดือน เพิ่มเป็น 8,750 บาทต่อเดือน
- เงินทดแทนกรณีทุพพลภาพ สูงสุด 7,500 บาทต่อเดือน เพิ่มเป็น 8,750 บาทต่อเดือน
- เงินทดแทนกรณีว่างงาน สูงสุด 7,500 บาทต่อเดือน เพิ่มเป็น 8,750 บาทต่อเดือน
- เงินสงเคราะห์กรณีคลอดบุตร 22,500 บาทต่อครั้ง เพิ่มเป็น 26,250 บาทต่อครั้ง
- เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต 90,000 บาท เพิ่มเป็น 105,000 บาท
- เงินบำนาญในกรณีส่งเงินสมทบครบ 15 ปี สูงสุด 3,000 บาทต่อเดือน เพิ่มเป็น 3,500 บาทต่อเดือน
- เงินบำนาญในกรณีส่งเงินสมทบครบ 25 ปี สูงสุด 5,250 บาทต่อเดือน เพิ่มเป็น 6,125 บาทต่อเดือน

ที่มา: www.sso.go.th