การสำเร็จการศึกษาถือเป็นก้าวสำคัญของใครหลายคน โดยเฉพาะการเปลี่ยนสถานะจากนักศึกษาไปสู่วัยทำงานอย่างเต็มตัว แต่ว่าในชีวิตจริงอาจไม่เป็นอย่างที่ใจหวัง เด็กจบใหม่หลายคนต้องเผชิญปัญหาตั้งแต่ก้าวแรก เช่น หางานทำไม่ได้, สอบตกในการสัมภาษณ์, ทำงานไม่ตรงสายที่เรียนมา ฯลฯ เพราะในห้องเรียนอาจสอนเพียงว่าเราต้องทำงานอย่างไร แต่ไม่ได้สอนว่า...แล้วเราจะหางานได้อย่างไร

 

เด็กจบใหม่ ทำไมหางานยากจัง?

สำหรับเด็กจบใหม่แล้วอาจมีคำถามว่า ทำไมกว่าจะได้งานแต่ละงานมันช่างยากเย็นยื่นใบสมัครตั้งหลายแห่งสัมภาษณ์ก็ตั้งหลายที่ เมื่อไรจะถึงโอกาสของเราเสียที ซึ่งเหตุผลสำคัญที่การหางานไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเด็กจบใหม่ก็เพราะว่า

 

           1.เด็กจบใหม่การแข่งขันสูง 

 

เพราะในแต่ละปีมีเด็กจบใหม่จำนวนมาก ทำให้อัตราการแข่งขันเพิ่มสูงขึ้น รวมไปถึงคนที่มีประสบการณ์การทำงานก็เข้ามาร่วมช่วงชิงตำแหน่งงานกันด้วย ทำให้เด็กจบใหม่ต้องเผชิญการแข่งขันจากหลายด้าน โอกาสที่จะได้รับความสนใจจากองค์กรต่างๆ จึงอยู่ที่ 50-50 ขึ้นอยู่กับความน่าสนใจเฉพาะตัวและผู้สมัครคนอื่นๆ ที่เป็นทางเลือกขององค์กรด้วย

            2.เด็กจบใหม่ประสบการณ์การทำงานน้อย

⁠เด็กจบใหม่ส่วนใหญ่ยังไม่มีประสบการณ์การทำงาน แม้จะผ่านการฝึกงานมาแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้ฝึกงานในตำแหน่งที่เหมาะสมกับความถนัดของตนเอง หรือไม่ได้ใช้ความสามารถในการทำงานอย่างจริงจัง ซึ่งแน่นอนว่าการฝึกงานกับการทำงานในฐานะพนักงานประจำย่อมแตกต่างกัน องค์กรมักจะต้องการคนที่พร้อมทำงาน มีประสบการณ์มาบ้าง สอนงานไม่นานก็สามารถเข้าใจและทำงานได้ดี

            3.เด็กจบใหม่ขาดทักษะหลายด้าน

⁠สิ่งที่มาควบคู่กับประสบการณ์การทำงานก็คือ ทักษะที่จำเป็นต่อการทำงาน ซึ่งหลายคนอาจได้ฝึกฝนและมีทักษะติดตัวมาบ้าง ในขณะที่หลายคนยังไม่มีโอกาสได้พัฒนาทักษะ เพราะคิดว่าไม่จำเป็น หรือไม่รู้ว่าควรจะเพิ่มทักษะด้านใดบ้างที่จะตอบโจทย์การทำงานในอนาคต หากองค์กรต้องพิจารณาผู้สมัครหลายคน คนที่มีทักษะย่อมเป็นทางเลือกที่โดดเด่นกว่า โดยเฉพาะทักษะการสื่อสารเป็นสิ่งที่ทุกคนควรมี เพราะไม่ว่าจะทำงานตำแหน่งอะไร การสื่อสารก็เป็นเรื่องสำคัญและช่วยให้งานประสบความสำเร็จได้ เช่น การพูดคุยกับลูกค้า การสื่อสารภายในทีม เป็นต้น

 

             4.เด็กจบใหม่ขาดคอนเนคชั่น

⁠เพราะเด็กจบใหม่ยังไม่ได้ทำงาน ทำให้ขาดคอนเนคชั่นกับองค์กรต่างๆ ซึ่งต้องใช้เวลาสั่งสมพอสมควรจึงจะเป็นที่รู้จักในแวดวงธุรกิจแต่ละประเภท มีสังคมวงกว้าง และสามารถแสดงความสามารถให้เป็นที่จดจำได้ เพื่อให้มีโอกาสที่องค์กรจะติดต่อชวนเข้าร่วมงานในอนาคต

 

business-people-standing-office_1153-3835.jpg

 

 

5 ข้อสำคัญที่เด็กจบใหม่ต้องมี

แม้ว่าการแข่งขันจะสูง แต่เด็กจบใหม่สามารถพัฒนาตนเองให้เป็นผู้สมัครที่น่าสนใจขึ้นได้ด้วย 5 ทักษะต่อไปนี้

 

           1.เด็กจบใหม่ต้องปรับตัวง่าย

⁠ในสภาพแวดล้อมการทำงานที่กดดัน หากเราสามารถปรับตัวได้เก่งก็ถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างหนึ่งที่ทำให้พร้อมรับมือต่อทุกสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น แก้ไขปัญหาเฉพาะได้อย่างรวดเร็ว ไม่หวั่นต่อความเปลี่ยนแปลงที่เข้ามากระทบการทำงาน ที่สำคัญคือต้องมีความพร้อมในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอด เรียนรู้ได้ไว ฝึกฝนและพัฒนาตนเอง รู้จักหยิบเทรนด์หรือกระแสสังคมในเวลานั้นมาประยุกต์ใช้กับงาน มีไอเดียสร้างสรรค์ทันสถานการณ์

           2.เด็กจบใหม่ต้องมีความสามารถด้านเทคโนโลยี

⁠ในยุคที่เทคโนโลยีกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปแล้ว โดยเฉพาะการทำงานที่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีมากขึ้นหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นการ Work from Home, การประชุมออนไลน์ผ่าน Zoom, Google Meet, WebEx รวมทั้งการรับ-ส่งข้อมูลในการทำงานผ่านระบบ cloud ทำให้เด็กจบใหม่จำเป็นต้องพัฒนาความเชี่ยวชาญในการใช้เทคโนโลยีด้านการทำงานต่างๆ ยิ่งเรียนรู้ได้มากและเลือกนำมาใช้ได้เหมาะสม ก็ยิ่งเป็นข้อได้เปรียบในการทำงาน

 

          3.เด็กจบใหม่ต้องมีความสามารถด้านภาษา

⁠ธุรกิจปัจจุบันไม่ได้มีกลุ่มเป้าหมายเพียงแค่ในประเทศแล้ว แต่มีการขยายตลาดออกสู่ภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก หากเรามีความสามารถด้านภาษาที่สอง ภาษาที่สาม หรือมากกว่านั้น ย่อมสร้างความโดดเด่น น่าสนใจให้แก่ตนเองได้เป็นอย่างมาก ทุกองค์กรต่างก็ต้องการคนที่สื่อสารได้หลากหลายภาษา โดยมีภาษาไทยและภาษาอังกฤษเป็นพื้นฐาน ดังนั้น เด็กจบใหม่ควรศึกษาเรียนรู้ภาษาอื่นๆ เพิ่มเติม โดยเฉพาะภาษาที่เป็นที่ต้องการของตลาดหรือมีความจำเป็นต่อสายงานที่เราสนใจก็ยิ่งเป็นประโยชน์

            4.เด็กจบใหม่ต้องมีความสามารถในการใช้โปรแกรม Adobe Photoshop

⁠Adobe Photoshop เป็นโปรแกรมสำหรับการปรับแต่งและตัดต่อภาพ ทำงานกราฟิก งานออกแบบสื่อต่างๆ ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าช่างภาพ สายงานกราฟิก งานโฆษณา ฯลฯ ต่างก็ใช้โปรแกรมนี้ ทว่าไม่ใช่แค่สายอาชีพเหล่านี้เท่านั้นที่ควรต้องฝึกฝน แต่เด็กจบใหม่ทุกคนควรเปิดโอกาสในการเรียนรู้ทักษะการใช้โปรแกรม Adobe Photoshop ขั้นพื้นฐานไว้ติดตัว เพื่อที่จะสร้างสรรค์งานที่เกี่ยวข้องออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นอีกหนึ่งทักษะที่หากใครมีก็ถือว่าได้เปรียบคนอื่นๆ แล้วก้าวหนึ่ง

             5.เด็กจบใหม่ต้องมีความสามารถในการตัดต่อวิดีโอ

⁠ปัจจุบันการสื่อสารด้วยภาพหรือเสียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เพราะเทรนด์ความสนใจของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปตามกระแสสังคม ในยุคที่โซเชียลมีเดีย เช่น Tiktok ได้รับความสนใจอย่างมาก ด้วยวิธีการเล่าเรื่องแบบใช้คลิปวิดีโอ มีสคริปต์ มีเรื่องราว สอดแทรกอารมณ์ขัน สามารถดึงดูดผู้ใช้งานได้ดี จึงเป็นตัวอย่างการสื่อสารที่หลายองค์กรให้ความสำคัญและนำมาปรับใช้ให้เข้ากับบริบทของตนเอง โดยเฉพาะการทำการตลาดกับกลุ่มเป้าหมาย ดังนั้น หากเด็กจบใหม่อยากดูโดดเด่นในสายตาขององค์กร จึงควรที่จะเรียนรู้และฝึกฝนทักษะการตัดต่อวิดีโอไว้ด้วย

 

    แม้ว่าการหางานอาจไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเด็กจบใหม่ แต่ถ้าได้ลองทำตามเทคนิคที่แนะนำไปแล้ว โดยเฉพาะ 5 ข้อสำคัญที่เด็กจบใหม่ต้องมี ก็รับรองได้ว่าโอกาสที่จะคว้างานที่ใช่ องค์กรที่ชอบ อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน

 

 

ที่มา :  https://th.jobsdb.com/

 

โพสต์โดย
โพสต์โดย
Sales Executive
“พี่นดา” Sales ผู้มีใจรักในงานขาย ใช้ชีวิตอยู่กับงานขายมาตลอด การได้พบเจอผู้คน ได้พูดคุยกับลูกค้า ได้ต่อรองต่อสู้เพื่อชัยชนะคือความสนุกในการทำงาน นอกเวลางานมีแต่เรื่องกินเรื่องเที่ยว และความสวยความงามส่วนตัวเท่านั้น