เมื่อคณะกรรมการแพทย์ของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) มีมติเห็นชอบที่จะ เพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านทันตกรรม เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระให้กับผู้ประกันตน ซึ่งคาดว่าจะเริ่มมีผลบังคับใช้ได้ภายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2568 นี้ การปรับปรุงสิทธิครั้งนี้นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เพราะเป็นการ แยกค่าผ่าฟันคุดออกจากวงเงินทำฟันเดิม ทำให้ผู้ประกันตนสามารถใช้สิทธิได้อย่างครอบคลุมมากขึ้น
สิทธิประโยชน์ทำฟันแบบเดิมคืออะไร?
ก่อนหน้านี้ สิทธิประโยชน์ทางทันตกรรมสำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 คือการเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ ไม่เกิน 900 บาทต่อคนต่อปี โดยครอบคลุมการรักษาพื้นฐาน 4 ประเภท ได้แก่:
- การขูดหินปูน
- การอุดฟัน
- การถอนฟัน
- การผ่าฟันคุด
ซึ่งหมายความว่า หากค่าใช้จ่ายในการผ่าฟันคุดสูงกว่า 900 บาท ผู้ประกันตนจะต้องรับผิดชอบส่วนต่างเองทั้งหมด ทำให้หลายคนรู้สึกว่าสิทธิดังกล่าวไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายจริง
ตามมติล่าสุดของคณะกรรมการแพทย์ สปส. ผู้ประกันตนจะได้รับสิทธิประโยชน์ใหม่ ดังนี้:
- แยกวงเงินค่าผ่าฟันคุดออกจากสิทธิ 900 บาท
นี่คือหัวใจของการปรับปรุงในครั้งนี้ โดยผู้ประกันตนสามารถใช้สิทธิทำฟันพื้นฐาน (ขูด, อุด, ถอน) ในวงเงิน 900 บาทเดิมได้ตามปกติ และมีสิทธิสำหรับค่าผ่าฟันคุดเพิ่มขึ้นมาต่างหาก โดยมีอัตราดังนี้:
- การผ่าฟันคุดแบบง่าย (ไม่ต้องกรอกระดูก): เบิกได้สูงสุด 1,500 บาทต่อซี่
- การผ่าฟันคุดแบบยาก (ต้องมีการกรอกระดูก): เบิกได้สูงสุด 2,500 บาทต่อซี่
- สิทธิทำฟันพื้นฐาน อาจปรับเป็น "จ่ายตามจริง" ในสถานพยาบาลรัฐ
นอกจากนี้ ยังมีการพิจารณาที่จะปรับสิทธิทำฟันพื้นฐาน (ขูด, อุด, ถอน) จากวงเงินคงที่ 900 บาทต่อปี ให้เป็นแบบ "จ่ายตามจริง" เมื่อเข้ารับบริการในโรงพยาบาลของรัฐ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกันตนได้รับบริการที่มีคุณภาพมากขึ้นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายส่วนเกิน (ในกรณีที่ค่าใช้จ่ายไม่เกินอัตราที่กำหนด)
มติครั้งนี้จะถูกเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการประกันสังคมอีกครั้ง หากผ่านความเห็นชอบ คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายใน เดือนสิงหาคม - กันยายน 2568 นี้